เควิน กอร์ดอน นักกีฬาที่ทำให้คนในประเทศกัวเตมาลาส่งแรงเชียร์แบดมินตัน

เควิน กอร์ดอน นักแบดมินตันจากกัวเตมาลา

การแข่งขันแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิกมีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นพ้องตรงกัน นั่นก็คือเหรียญทองในการแข่งขันไม่เคยหนีห่างนักกีฬาจากประเทศจีนเลย และนักแข่งที่ท้าชิงพวกเขาส่วนใหญ่ก็แทบอยู่ในโซนเอเชียด้วยกันทั้งนั้น แต่ทว่าในโอลิมปิกที่โตเกียวมีนักกีฬาจากกัวเตมาลา ประเทศจากทวีปอเมริกาเหนือ เข้ามาร่วมแข่งขันด้วยในศึกครั้งนี้ เรียกได้ว่าประเทศกัวเตเมลาเป็นดินแดนที่กีฬาแบดมินตันไม่เคยป๊อปปูล่าร์เลยแม้สักครั้งเดียว มีเพียงชายที่ชื่อว่า เควิน กอร์ดอน คนนี้นี่แหละ ที่หัดเล่นแบดมินตันในช่วงเวลาที่เพื่อนทั้งชั้นเรียนพากันไปเตะแต่ฟุตบอล เพียงเพื่อเป้าหมายสำคัญของชีวิต นั่นก็คือการเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย

เส้นทางนักกีฬาของ เควิน กอร์ดอน
เควิน กอร์ดอน นักตีขนไก่ผู้ที่ใฝ่ฝันไประดับโลก

คนตัวเล็กนามว่า เควิน กอร์ดอน ผู้ที่สร้างสิ่งยิ่งใหญ่ให้กับประเทศบ้านเกิด

ในช่วงเวลาปัจจุบัน เควิน กอร์ดอน กลายเป็นนักแบดมินตันชาวกัวเตมาลา มือวางอันดับหนึ่งของทวีปอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาประสบความสำเร็จแทบทุกครั้งในการแข่งขันระดับท้องถิ่น รวมไปถึงระดับทวีปเจ้าตัวก็ผ่านมาแล้วแทบจะครบทุกรายการ แต่ทว่าเมื่อถูกถามถึงการแข่งขันโอลิมปิก หรือการแข่งขันชิงแชมป์โลก กลายเป็นว่าไม่มีใครรู้จักเขาคนนี้เลย เบื้องหลังไม่ต้องสืบสาวไปไกล มีเพียงเหตุผลง่ายแค่นิดเดียว นั่นก็คือประเทศแถบอเมริกา ไม่ว่าจะทางเหนือหรือใต้พวกเขาไม่เล่นแบดมินตัน ประเทศกัวเตมาลาถือเป็นชาติที่ได้รับอิทธิพลจากอเมริกาและโลกตะวันตกพอสมควร ประเทศนี้อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือเหมือนกับสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเคยอยู่ภายใต้การปกครองของสเปนเมื่อครั้งในอดีต ทำให้ในพจนานุกรมกีฬาของกัวเตมาลาไม่มีคำว่าแบดมินตันอยู่ในนั้นเลย

สิ่งสำคัญคือการผลักดันให้กีฬาแบดมินตันเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน

สิ่งสำคัญที่ทำให้ชาวกัวเตมาลาไม่เล่นแบดมินตัน ไม่ว่าจะเป็นชาวอเมริกาเหนือหรือใต้จะมีมุมมองในแง่ลบเกี่ยวกับกีฬาประเภทนี้ เนื่องจากพวกเขาคิดว่ามันเป็นกีฬาที่อ่อนแอ แม้จะมีวิธีการเล่นที่คล้ายกับเทนนิส แต่พวกเขาก็ประเมินแบดมินตันไว้ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก แบดมินตันจึงกลายเป็นกีฬาเชิงสันทนาการที่เล่นกันตามสวนหลังบ้านมากกว่า ไม่มีสื่อใดสนใจ รัฐบาลผลักดันน้อยกว่าที่ควร สร้างรายได้และผลตอบแทนน้อยกว่าการเล่นเทนนิสอาชีพ แน่นอนว่าไม่มีนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จแบบที่ทำให้กระแสมันบูมได้ พ่อของเควินจึงบอกลูกชายว่าสักวันหนึ่งจะเป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจใช้ได้ แต่ทว่าเมื่อ เควิน อายุได้ 12 ปี มีชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า อามิลการ์ คาสตาเนด้า เข้ามาทำงานในเทศบาลท้องถิ่นที่ดูแลหมู่บ้านของเขา พร้อมกับเข้ามาประจำตำแหน่งและรับผิดชอบเรื่องกีฬา หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

สร้างสิ่งเล็กเพื่อเป็นรากฐานให้เด็กในอนาคต

คาสตาเนด้า เป็นนักศึกษาหัวนอกจบมาจากสหรัฐอเมริกา แม้จะไม่ใช่ประเทศที่เก่งเรื่องแบดมินตัน แต่เขาก็เคยเรียนวิชาแบดมินตันสมัยอยู่ที่อเมริกามาก่อน เขาเชื่อว่าชุมชนจะแข็งแกร่งได้ถ้าสนับสนุนให้เด็กเล่นกีฬา แม้ว่าสนามฟุตบอลอาจจะใหญ่เกินตัวและเกินงบประมาณ แต่ว่านำความรู้ที่มีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการขอใช้โกดังร้างในชุมชนมาทำเป็นสนามแบดมินตันชั่วคราว และแอบฝันไว้ว่าสนามมือสองแห่งนี้ จะเป็นสถานที่ผลิตนักแบดมินตันไปแข่งขันในโอลิมปิกได้ในอนาคต และก็เกิดขึ้นจริงเมื่อ คาสคาเนด้า พบเจอกับ เควิน ชายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ด้านกีฬา