มาร์แซล จาค็อบส์ ราชานักวิ่งลมกรดผู้ไม่เคยคว้าเหรียญในโอลิมปิก

ปัจจุบันประเทศอย่างอิตาลีไม่ได้เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความสำเร็จในวงการกรีฑา ยิ่งเป็นประเภทกรีฑาแบบลู่วิ่งด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว ก่อนที่จะได้มาเจอกับชายที่ชื่อว่า มาร์แซล จาค็อบส์ ผู้ที่เปลี่ยนความคิดของคนทั้งชาติ จนทุกคนเห็นความสามารถของเขา กับการผงาดคว้าเหรียญทองในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชาย ในศึกโอลิมปิก ชายคนนี้ไม่เคยชนะและเป็นแชมเปี้ยนในรายการใหญ่มาก่อนเลย จนกระทั่งปฏิทินเข้าสู่ปี 2021 ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป พร้อมกับถูกแก้ไขโดยใช้เวลาหาต้นตอแค่ 6 เดือนเท่านั้น จนกลายเป็นนักวิ่งอิตาลีคนแรกที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขันวิ่งระยะ 100 เมตรชาย เพราะเขานั้นมีสายเลือดของชาวแอฟริกันผสมอยู่ในตัวนั่นเอง และมันเป็นสารตั้งต้นที่ทำให้เขาต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้

นักวิ่งผู้มีเชื้อสายแอฟริกันในอิตาลีชายคนนี้คือ มาร์แซล จาค็อบส์

ประเทศอิตาลีถือเป็นดินแดนที่มีเรื่องการเหยียดผิวเป็นอันดับต้นๆ ของทวีปยุโรป มีการวิเคราะห์กันว่าสาเหตุที่มีการเหยียดผิวเยอะขนาดนี้ เป็นเพราะประเทศอิตาลีอยู่ใกล้กับทวีปแอฟริกามากที่สุดในยุโรป หากมีผู้อพยพจากแอฟริกาเดินทางมาด้วยเรือเพื่อมาลงฝั่งยุโรป ตัวเลือกแรกที่เขาจะต้องมาขึ้นฝั่งก็คืออิตาลีนั่นเอง ทำให้คนในท้องถิ่นหลายคนไม่ชอบใจเรื่องนี้กันอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่สามารถจะคว่ำเรือของผู้อพยพได้ด้วยเหตุผลเรื่องศีลธรรม และในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่ได้อยากจะต้อนรับผู้อพยพมากมายนัก เนื่องจากยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ก็มักจะสร้างปัญหามากขึ้นเท่านั้น

เส้นทางชีวิตของครอบครัวนักกีฬา

ตัวของ มาร์แซล จาค็อบส์ นั้นไม่ได้อพยพมาทางเรืออย่างที่ใครหลายคนคิด ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุคปี 80 กองกำลังทหารของสหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพที่เมืองวิเซนซ่า ในประเทศอิตาลี ทำให้สาวพื้นเมืองที่ชื่อว่า วิเวียน่า ได้พบรักกับทหารอเมริกันที่มีเชื้อสายแอฟริกันคนหนึ่ง ทั้งสองตกลงแต่งงานและย้ายไปกลับไปอยู่ที่ เอล ปาโซ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากภารกิจในประเทศอิตาลีเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว ชีวิตใหม่ในดินแดนอเมริกาเริ่มต้นได้ไม่นานนัก และมันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่สามีของเธอ ถูกดึงตัวไปประจำการที่ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้เธอตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่อิตาลี พร้อมกับลูกชายตัวน้อยวัย 1 ขวบ ที่มีชื่อว่า มาร์แซล จาค็อบส์

ภาคภูมิใจในการเป็นตัวของตัวเอง

แม้ว่าเราจะเปลี่ยนผู้คนเหล่านั้นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองได้เสมอ มาร์แซล จึงเลือกเชื่อในสิ่งที่แม่สอนมาตลอด นั่นก็คือการวางตัวและแนวคิดเรื่องภาคภูมิใจกับการเป็นตัวของตัวเอง เขาเริ่มเล่นกีฬาและด้วยยีนจากแอฟริกันที่โดดเด่นเรื่องกล้ามเนื้อ เขาจึงกลายเป็นนักกีฬากรีฑาชั้นดี ตั้งแต่ยังอายุ 10 ขวบเท่านั้น นอกจากนี้เขาคือยอดนักวิ่งลมกรดในระดับประเทศ ยังมีความเชี่ยวชาญในการกระโดดไกลจนสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันรายการชิงแชมป์เมดิเตอร์เรเนียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ตูนิเซียมาแล้วอีกด้วย