การสร้างทีมของคู่ชิง NBA แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีซูเปอร์ทีมในยุคนี้ก็ได้

สิ่งที่น่าตื่นเต้นในการดูบาสเกตบอล เอ็นบีเอ รอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ก็คือ ทีมสองทีมทั้งซันส์และบัคส์ต่างก็ถูกมองว่าเป็นทีมนอกสายตาสำหรับคนทั่วไปที่ติดตามบาสเกตบอล หากเป็นคนที่ไม่เคยติดตามวงการนี้มาก่อน ก็อาจไม่ค่อยคุ้นชื่อของซันส์และบัคส์สักเท่าไหร่ เพราะขุมกำลังของทั้งสองทีม ล้วนไม่เคยมีประสบการณ์สัมผัสกับรสชาติแห่งชัยชนะในนัดชิงชนะเลิศ NBA เลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งสิ่งที่ทำให้สองทีมนี้เหมือนกันก็คือปรัชญาการปั้นนักบาสที่ไม่ได้มีดีกรีระดับซูเปอร์สตาร์ ไม่ได้เน้นทุ่มเงินซื้อตัวผู้เล่นบิ๊กเนม ตามแนวทางซูเปอร์ทีมที่หลายสังกัดบิ๊กเนมกำลังทำอยู่ สงสัยแล้วใช่ไหมว่าทำไมทั้งสองทีมต่างเชื่อมั่นในการสร้างผู้เล่นให้ก้าวขึ้นมาโด่งดัง มากกว่าการเสริมทัพดึงตัวนักบาสที่มีฝีมือเก่งกาจเข้าร่วมทีม ไปหาคำตอบพร้อมกันดีกว่า

ปลุกปั้นผู้เล่นในทีมให้กลายเป็นนักบาสที่มีพรสวรรค์

การแข่งขันบาสเกตบอลในลีกเอ็นบีเอ ฤดูกาลหนึ่งจะแบ่งออกเป็นสองช่วง นั่นก็คือฤดูกาลปกติที่จะแข่งขันเก็บแต้มไปจนจบฤดูกาล โดยจะแยกกันแข่งระหว่างทีมจากฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ส่วนอีกช่วงหนึ่งก็คือเพลย์ออฟ เป็นการนำทีมที่มีคะแนนที่ดีที่สุดของแต่ละสายจากการแข่งขันตลอดฤดูกาลปกติมาแข่งกัน เพื่อที่จะได้แชมป์ประจำฤดูกาลไป ปกติแล้วทีมที่ได้เข้าไปเล่นในเพลย์ออฟ มักจะเป็นทีมที่มีฝีไม้ลายมือโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น เลอบรอน เจมส์ จาก ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส, เจสัน เททั่ม จากบอสตัน เซลติกส์​ หรือจะเป็นซูเปอร์ทีมตัวเต็งแชมป์ประจำปี อย่าง บรูคลิน เน็ตส์ จากการรวมตัวกันของผู้เล่นอย่าง เควิน ดูแรนท์, เจมส์ ฮาร์เดน และ ไครี เออร์วิ่ง บอกได้เลยว่าพวกเขาเหล่านี้คือการรวมตัวสุดโหดแห่งวงการในซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้

ให้ความสำคัญกับผู้เล่นในทีมตัวเองเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

ซันส์และบัคส์ เป็นทีมที่ให้ความสำคัญกับผู้เล่นของตนเองอย่างชัดเจน ผู้เล่นหลายคนจากซันส์เป็นคนที่ถูกดราฟต์เข้ามาในทีมตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็น เดวิน บุ๊คเกอร์​ ชูตติ้งการ์ด วัย 24 ที่เริ่มเข้ามาสู่ทีมตั้งแต่ปี 2015 และยังมี ดีนเดรย์ เอย์ตัน กับมิคาล บริดเจส ที่ถูกดราฟต์เข้ามาในปี 2018 หรือรายล่าสุดอย่าง คาเมร่อน จอห์นสัน ที่ดราฟต์เข้ามาในปี 2019 ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้ไม่เคยเข้าไปเล่นเพลย์ออฟมาก่อนเลยสักคนเดียว แต่ทว่านี่คือรายชื่อผู้เล่นชุดล่าสุดที่พาทีมเข้ามาสู้อย่างสมศักดิ์ศรีได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ

ความเชื่อมั่นนำไปสู่การเติบโตในอนาคต

การซื้อตัวซูเปอร์สตาร์สักคนเข้ามาร่วมทีม อย่างแรกที่จำเป็นก็คือต้องมีเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งการที่พวกเขาไม่สนใจทำเช่นนั้น นอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้ว ยังทำให้พวกเขาต้องพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีกว่าเดิม จุดนี้เองยิ่งทำให้เพื่อนร่วมทีมแต่ละคนรู้มือกันมากขึ้น ทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาด้วยกันได้อย่างต่อเนื่อง กุญแจสำคัญของพวกเขาคือการให้การสนับสนุนและเชื่อใจกัน โดยยึดมั่นในสิ่งเดียวกันว่าพวกเขาจะต้องไปคว้าชัยชนะมาให้ได้ หากมีสิ่งนี้ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคอะไรก็ตาม ทั้งทีมก็จะสามารถก้าวผ่านไปได้อย่างแน่นอน